Copyright © 2012 Major Cineplex Group Plc. All original contents of www.majorcineplex.com ("Site") including text, graphics, interfaces and design thereof are all rights reserved.
ทันหุ้น-MPIC มั่นใจรอบนี้ผู้ถือหุ้นไฟเขียวแผนเพิ่มทุน 296.50 ล้านหุ้น แบ่งขายผู้ถือหุ้นเดิมและใช้สวอปหุ้น PM-MNR หลังMAJOR เคลียร์ข้อมูลเรียบร้อย ด้านผู้บริหาร สุรพงษ์ เตรียมชาญชัย เชื่อ
ขายหุ้นเพิ่มเกลี้ยง คาดจบดีล Q4/2551 ได้เงิน 300 ล้านบาท ปั้นธุรกิจให้เดินหน้าต่อ พร้อมลุยธุรกิจเคเบิลทีวีส่งหนัง 300 เรื่อง ลง มีเดียแชนแนล ปลายเดือนตุลาคมสร้างหนังใหม่อีกเรื่อง คาดรายได้ปีนี้ทำได้ใกล้เคียงปีก่อน 500 ล้านบาท
นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ประธานกรรมการบริหารบริษัท เอ็มพิคเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC เปิดเผยว่า การประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ เชื่อว่าผู้ถือหุ้นจะอนุมัติให้บริษัทเพิ่มทุนจำนวน 296.50 ล้านหุ้น เพราะได้มีการเสนอข้อมูลให้กับผู้ถือหุ้นได้รับทราบมากขึ้น จึงคาดว่าจะขายหุ้นเพิ่มทุนได้หมด และคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 4/2551
ส่วนเม็ดเงินที่คาดว่าจะได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้ประมาณ 300 ล้านบาท จะนำไปใช้ขยายธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิม เพื่อเป็นการต่อยอดทางธุรกิจ พร้อมทั้งสร้างรายได้และผลตอบแทนให้กับบริษัทในอนาคตต่อไป
การเพิ่มทุนในครั้งนี้น่าจะไม่ติดปัญหาอะไร หลังจากทาง MAJOR ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของทั้ง MPIC และ PM ได้แจ้งข้อมูลให้กับทางผู้ถือหุ้นได้เข้าใจมากขึ้น จากรอบแรกที่มีการเสนอข้อมูลที่น้อยไปจึงทำให้มติเพิ่มทุนไม่ผ่าน แต่รอบนี้เชื่อว่าจะผ่าน และน่าจะขายได้หมดนายสุรพงษ์กล่าว
ทั้งนี้คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท แปซิฟิค มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กรุ๊ป จำกัด (PM) และบริษัท มีเดีย เน็ตเวิร์ก รีเทล จำกัด (MNR) โดยให้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 360 ล้านบาท เป็น 56.50 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน296.50 ล้านหุ้น แบ่งเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม 120 ล้านหุ้น ในอัตรา 3 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาจองซื้อใหม่ที่ 2.25 บาท จากเดิมเสนอขายที่ 2.75 บาทต่อหุ้น
รวมทั้งจัดสรรหุ้นจำนวน 176.50 ล้านหุ้น เพื่อใช้ในการทำการแลกเปลี่ยนหุ้น( Share Swap) กับ PM และ MNR เพื่อชำระแทนค่าหุ้นที่ได้มา
นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า MPIC ได้ร่วมมือกับบริษัท มีเดียออฟมีเดียส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MEDIAS ในธุรกิจเคเบิลทีวีเพื่อนต่อยอดธุรกิจหนังของบริษัท โดยทาง MEDIAS จะซื้อลิขสิทธิ์หนังของบริษัทไปออกอากาศทางช่องเคเบิลทีวี มีเดียแชนแนลช่อง 20 ซึ่งมูลค่าการซื้อลิขสิทธิ์หนังในครั้งนี้ประมาณ 5 ล้านบาท จากหนังทั้งหมด 300 เรื่อง
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการสร้างหนังเรื่องใหม่ชื่อ บอย-ป๊อด บิทเทอร์สวีท ซึ่งคาดว่าจะเข้าฉายในช่วงปลายเดือนตุลาคม หรือต้นเดือนพฤษจิกายนนี้ จึงมั่นใจว่าปีนี้รายได้จะเติบโตได้ใกล้เคียงปี 2550 ที่มีรายได้ 500 ล้านบาท
นางชาลอต โทณวณิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MEDIAS เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการเสนอรายการใหม่ไปยังสถานีโทรทัศน์ตามช่องต่างๆ เช่น ช่อง 5 และช่อง 9 เพราะในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้สถานีโทรทัศน์ดังกล่าวจะมีการวางแผนปรับผังรายการใหม่สำหรับปี 2552 จึงคาดว่าเดือนพฤศจิกายนนี้น่าจะรู้ผล
ส่วนการเปิดตัวสถานีโทรทัศน์มีเดียแชนแนลช่อง 20 ทางเคเบิลทีวีทั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มออกอากาศในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เป็นการร่วมมือระหว่าง MPIC ซึ่งมีคอนเท้นต์ด้านภาพยนตร์กว่า 300 เรื่อง โดยคาดว่าปีแรกที่เริ่มออกอากศจะทำรายได้ประมาณ 80-100 ล้านบาท
ดังนั้นคาดว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้จะเติบโตตามเป้าที่วางไว้ว่ารายได้จะเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 900 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท เกิดจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัญหาการเมืองในประเทศ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง
ราคาหุ้น MPIC วันศุกร์ที่ 26 กันยายน 2551 ปิดตลาดที่ระดับ 2.60 บาท ลดลง 0.24 บาท หรือ 8.45% มูลค่าซื้อขายรวม 24.19 ล้านบาท ส่วนหุ้น MEDIAS ปิดตลาดทรงตัวที่ 5.05 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 66,000บาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ทันหุ้น
ฉบับวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551